วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ยุคคนกินคน

ยุคคนกินคน
กาลเวลาในกัปป์นี้ในห้วงพุทธันดรนี้เป็นกาลสมัยแห่งศาสนาพุทธโคดม พระพุทธองค์ลงมาตรัสรู้ในยุคที่มนุษย์เกิดความประมาทเป็นอย่างมากแล้วเป็นกรรมพิสดารแห่งพุทธวิสัยของพระองค์ท่านที่ลงมาตรัสรู้เมื่ออายุมนุษย์ลดน้อยถอยลงเหลือแค่ 120 ปี เท่านั้น และพระพุทธองค์ท่านก็ได้ตรัสพยากรณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคตข้างหน้าไว้ในจักรวรรดิสูตรว่า ต่อจากนี้ไปเมื่อสิ้นศาสนาแห่งเราอายุมนุษย์จักน้อยลงไปเรื่อยๆเพราะความประมาท ไม่รักษาศีล ไม่ปฏิบัติธรรม เมื่ออายุมนุษย์น้อยลงเหลือแค่ 25-30 ปี เมื่อไหร่จะเกิดยุคมิคคสัญญีเกิดขึ้นซึ่งเป็นห้วงเวลาที่มีแต่ภยันตราย เป็นห้วงเวลาที่เกิดจากภัยอันเกิดจากอาวุธเข้าทำการประหัตประหารกันของมวลมนุษยชาติที่เรียกว่าสัตถันตรกัปป์
พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า คนในยุคที่มีอายุสั้นแค่ 25-30 ปีนั้นเป็นมนุษย์ที่ดำรงชีวิตด้วยสัญชาติญาณคล้ายสัตว์ป่าเถื่อนเป็นคนไม่มีศีลธรรมดำรงชีวิตอยู่คล้ายสัตว์เดรัจฉาน ใครมีกำลังมากก็จักจะได้เป็นผู้นำฝูงมนุษย์ในยุคนั้น ห้วงเวลาสัตถันตรกัปป์ซึ่งเป็นยุคมิคคสัญญีนี้เป็นรอยต่อระหว่างกัปป์ต่อกัปป์เป็นรอยต่อระหว่างพุทธันดรต่อพุทธันดรเป็นรอยต่อระหว่างศาสนาพุทธโคดมกับระยะเวลาที่เข้าเขตแห่งศาสนาเมตไตรโย รอยต่อระหว่างยุคในคราวนี้จักจะไม่มีน้ำท่วมโลกเพื่อล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์เหมือนครั้งรอยต่อระหว่างศาสนากัสสัปโปพระพุทธเจ้ากับศาสนาพุทธโคดมที่ผ่านมา
ในยุคมิคคสัญญีนั้น โลกจะเต็มไปด้วยภาวะมลพิษอันเกิดจากฝีมือมนุษย์ น้ำจะไม่สามารถดื่มกินได้เพราะเกิดจากการปนเปื้อนสารเคมีที่สะสมมานาน ผิวพรรณของมนุษย์ในยุคนั้นมีผิวหนังหยาบกร้านผิวพรรณทรามเป็นมะเร็งผิวหนังกันเป็นส่วนใหญ่เพราะเกิดจากสภาวะเรือนกระจก จึงทำให้หน้าตามนุษย์ในยุคนั้นไม่หล่อไม่สวย อายุมนุษย์ในยุคนั้นสั้นมีอายุยืนเฉลี่ยแค่ 25-30 ปี เท่านั้นเพราะสุขภาพมนุษย์ในยุคนั้นแย่มากๆ เป็นโรคแปลกๆ ที่รักษาไม่หาย เทคโนโลยีทางการแพทย์ก็สูญสลายไปการรักษาแบบสมุนไพรก็ไม่ได้ผลเพราะต้นไม้ใบหญ้าในยุคนั้นแห้งเหี่ยวเฉาตายแคระแกร็นไม่ค่อยเจริญเติบโตสุญพันธุ์ไปหลายชนิด ด้วยสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยโลกจะร้อนระอุเหมือนดั่งทะเลทราย ผู้คนในยุคนั้นจะรีบครองเรือนเพื่อเสพกามกัน ชายอายุ 10 ขวบ หญิงอายุ 5 ขวบ จะรีบได้เสียเป็นเมียผัว การครองเรือนแบบนี้จะกลายเป็นที่ยอมรับทั่วไปในยุคนั้นเพราะความที่มนุษย์ในยุคมิคสัญญีมีอายุสั้นวงจรชีวิตสั้นนั้นเองในยุคนั้นระพุทธศาสนาได้สูญหายไปรวมทั้งศาสนาอื่นๆด้วย เคยมีคนกล่าวว่าในกาลข้างหน้าจะมีคนคาดไถดำนาแล้วไปเจอรูปปั้นพระพุทธรูปที่ฝังไว้ใต้โคนต้นโพธิ์แล้วคนเหล่านั้นถามกันว่านี้คือตุ๊กตาอะไร ทำไมถึงปั้นกันแบบแปลกๆมีหัวแหลมๆนี้คือความเสื่อมสูญสิ้นแห่งพระพุทธศาสนา
สัตว์ต่างๆจะสูญพันธ์ไปจากโลกใบนี้เพราะมนุษย์ในยุคก่อนๆ ล่าเอามากินเป็นอาหารจนแทบจะหมดสิ้น มนุษย์ในยุคมิคสัญญีนี้จักอดอาหารตายเป็นส่วนมากเป็นยุคที่เกิดมาเพื่อรับวิบากกรรม เกิดมาเพื่อสืบพันธุ์เท่านั้น และเกิดมาเพื่อเบียดเบียนกันเป็นส่วนใหญ่ เป็นการเกิดมาเพื่อตายอย่างทรมาน เมื่ออดอาหารมากๆ เข้ามนุษย์ในยุคนั้นจักต้องถกหญ้ากับแก้มากินเพื่อประทั่งชีวิตให้อยู่รอด แต่ความเป็นมนุษย์มิใช่วัวมิใช่ควายการกินหญ้ากับแก้ก็ไม่ทำให้ชีวิตอยู่รอดได้ เมื่อความหิวเกิดขึ้นมากๆเข้าสัญญาคือความจำได้หมายรู้ สัญญาที่ว่าตนเองเป็นมนุษย์ก็จักเลือนหายไปกลายเป็นสัญญาที่วิปลาสผิดปรกติเห็นมนุษย์ด้วยกันเป็นเหยื่ออันโอชะจักล่ากันเองเอามากินเป็นอาหาร จึงเกิดการใช้อาวุธอันเป็นมีดของมีคม ท่อนไม้ ก้อนหิน เพื่อไล่ฆ่ามนุษย์ด้วยกันเพื่อนำเนื้อมนุษย์มากินเป็นอาหารประทังความอยู่รอด พระพุทธองค์จึงทรงตรัสเรียกกาลเวลาในยุคนี้ว่า สัตถันตรกัป คือห้วงกาลเวลาที่เกิดอันตรายเกี่ยวกับอาวุธ และเรียกชื่อยุคนี้อีกว่า ยุคมิคสัญญี คือยุคแห่งกาลเวลาที่สัญญาความจำได้หมายรู้ของผู้คนส่วนใหญ่เกิดผิดปรกติวิปลาสเข้าใจผิดว่า เนื้อ(มิคคะ) คนกินได้ ยุคมิคสัญญีจึงเป็นยุคแห่งคนกินคน
คนจักไล่ล่าฆ่าคน เพื่อนำเนื้อคนมากินเป็นอาหาร เมื่อคนกินคนมากๆ เข้ามนุษย์ก็จักแทบจะสูญเผ่าพงษ์พันธุ์ จะมีผู้คนกลุ่มหนึ่งที่ยังประคองสติและสัญญา ยังไม่วิปลาสพากันหนีเข้าป่าเข้าหุบเขาหลบหนีอยู่ตามถ้ำ เป็นการหนีเพื่อเอาชีวิตรอดมิให้ถูกมนุษย์ด้วยกันฆ่ากินเป็นอาหาร เมื่อมนุษย์ที่หลบหนีรอดได้จำนวนหนึ่งมาเจอกันก็ต่างวิ่งเข้าโอบกอดกันแล้วร้องไห้เศร้าโศกเสียใจว่า โลกใบนี้ถึงกาลพินาศด้วยน้ำมือมนุษย์เองแล้ว ต่างปรับทุกข์กันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าที่มนุษย์ฆ่ากันและอายุสั้นแบบนี้เพราะเหตุมาจากมนุษย์ ไร้ศีลธรรมเบียดเบียนซึ่งกันและกันเป็นอาจิณ เมื่อพวกเรารอดตายแล้วพวกเราจักอยู่ร่วมกันกันด้วยความสงบสุขเถิด พวกเราจักไม่กินกัน พวกเราจักทำความดี และสืบพันธุ์ เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์เอาไว้ให้ดำรงอยู่คู่โลกใบนี้ พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสว่ามนุษย์พวกที่รอดตายและเริ่มต้นรักษาความดีกันใหม่นี้จักเป็นต้นตระกูลบรรพบุรุษแห่งมวลมนุษยชาติแห่งศาสนาเมตไตรโย เมื่อมนุษย์เริ่มรักษาความดีรักษาศีลและอายุมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ จิตมนุษย์สูงขึ้นเรื่อยๆ จาก 25 ปี เป็น 50 ปี จาก 50 ปีเป็น 100 ปี จาก 100 ปีเป็น 500 ปี จากหลักร้อยสูงเป็นหลักพัน จากหลักพันสูงเป็นหลักหมื่น เมื่ออายุมนุษย์ยืนถึง 80,000 ปีเมื่อนั้น อชิตะบรมมหาโพธิสัตว์จักจะได้ลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้านามว่า เมตไตรโย
ปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคคนกินคนนี้ก็คือการรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้คงอยู่ได้อย่างไร ก็เพราะในเมื่อโลกเต็มไปด้วยสภาวะมลพิษและโลกร้อนดั่งทะเลทรายเพราะภาวะเรือนกระจกและการกินการอยู่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบากสำหรับมนุษย์ที่รอดเหลือจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ด้วยฝีมือมนุษย์กันเอง ปัญหานี้คงเดือดร้อนถึงเทวาทั้งหลายอย่างแน่นอน เทวาฝ่ายอื่นๆ จะว่าอย่างไรก็ตามแต่เราทั้งหลายในฐานะที่เป็นเทวาผู้บริสุทธิ์แล้วในฝ่ายสวรรค์ดาวดึงส์คงไม่นิ่งเฉยดูดาย ก็มีการคาดเดากันในฝากดาวดึงส์ว่า สักกะมฆวาผู้เป็นอรหันตะ คงพาเพื่อนผองน้องพี่ที่เป็นชาวฟ้าดาวดึงส์ทั้งหลาย ทั้งที่หลุดพ้นเป็นวิสุทธิเทพกันบ้างแล้วและทั้งที่ยังไม่หลุดพ้นลงมาช่วยทำงาน เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์มนุษย์นี้อย่างเต็มที่
ในฝ่ายสักกะมฆวาเองครั้งยังบำเพ็ญทำบารมีในโลกมนุษย์ในยุคกึ่งพุทธกาลนี้ ท่านก็เคยได้นิมิตซึ่งเป็นแห่งอนาคตังสญาณ ในฐานะที่ท่านเป็นโพธิสัตว์ดวงหนึ่งว่า ในกาลข้างหน้าเมื่อเกิดยุคมิคสัญญีแล้วท่านสักกะมฆวาจะพาสุชาดาอสูรกัญญาเมียรักและชาวฟ้าดาวดึงส์ส่วนหนึ่งที่มีฝีมือในการทำงานลงมาเปิดพื้นที่พิเศษเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยแก่บรรดามนุษย์ที่เหลือจากการรอดตาย พื้นที่พิเศษนี้จะเป็นทองคำล้วนๆ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากสารพิษและจะทำหลังคาโลกชั่วคราวแบบโปร่งแสง (ด้วยอำนาจอภิญญาแห่งวิสุทธิเทพ) เพื่อครอบพื้นที่นั้นไว้โดยเฉพาะเพื่อกรองอากาศให้บริสุทธิ์และปรับปรุงให้พื้นที่พิเศษอันเนื้อที่จำกัดนั้นเป็นโลกใบเล็กๆเพื่อให้มนุษย์ได้อาศัยอยู่อย่างถูกสุขลักษณะและเริ่มต้นรักษาศีลทำความดีกันใหม่ เป็นการเปิดพื้นที่พิเศษด้วยการเนรมิตอย่างเต็มรูปแบบของเหล่าวิสุทธิเทพแห่งดาวดึงส์สวรรค์ทั้งหลาย ในส่วนของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่เหลือก็จะถูกเหล่าเทวาช่วยสอนและอบรมให้มนุษย์เหล่านี้มีความเป็นมนุษย์สมบัติเหมือนเดิม โดยให้เริ่มต้นจากการรักษาศีลและเลิกเบียดเบียนซึ่งกันและกัน งานนี้คงเป็นงานสุดท้ายเป็นการทำหน้าที่ครั้งสุดท้ายแห่งชาวฟ้าดาวดึงส์ ที่จะช่วยเหลืองานศาสนาแห่งพุทธโคดมพ่อของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น